Popular Posts

Thursday, March 7, 2013

คลื่นความถี่ 3G 2.1 GHz มีอะไรดี

คลื่นความถี่ 3G 2.1 GHz มีอะไรดี

ถ้าโลกของการใช้งาน 3G บนความถี่ 2.1 GHz ที่ใครหลายคนอาจจะมองว่ามันสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานเพียงไม่กี่กลุ่มเท่านั้นขอให้คิดใหม่ได้แล้ว เพราะแม้ในความเป็นจริงจะทำให้สาวกสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตมีความเพลิดเพลินและใช้งานอินเทอร์เน็ตเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วแล้ว

เมื่อมองให้กว้างออกไปถึงแง่การใช้งานที่ก่อให้เกิดประโยชน์จากสังคมโดยรวม 3G 2.1GHz ที่รองรับการสื่อสารด้วยความเร็วสูงถึง 14 เมกะบิตต่อวินาที หรือเร็วกว่าการสื่อสารแบบ 2.75G ถึง 36 เท่านั้นให้อะไรให้มากกว่าที่คิด

1. ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่เน้นใช้แอป

เป็นธรรมดาเมื่อโครงข่ายมือถือมีความเร็วเพิ่มขึ้น การเข้าถึงสิ่งต่างๆ ยิ่งง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น ดังนั้นนับจากนี้ไปจะได้เห็นการใช้งานแอปพลิเคชันต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ใครที่คุ้นเคยแค่เข้าเว็บเบราว์เซอร์ อาจทำให้ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่เพราะการพัฒนาแอปใหม่ๆ จะทำให้เข้าถึงบริการ ข่าวสาร และข้อมูลต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย เพียงปลายนิ้ว จิ้ม จิ้ม จิ้ม แล้วพิมพ์ไม่กี่ตัวเท่านั้น ก็จะได้ทุกสิ่งดังใจหวัง เรียกได้ว่าไม่ต้องรอเปิดหน้าเว็บเบราว์เซอร์หลายๆ หน้าเพื่อเข้าถึงสิ่งที่ต้องการเหมือนอย่างที่เคยทำ เรียกได้ว่าสมาร์ทโฟนและแอปประเภท self-care จะมีบทบาทสำคัญทำให้ลูกค้ามีปฏิสัมพันธ์กับผู้ให้บริการมากขึ้น

3G 2.1GHz นอกจากจะทำให้เข้าถึงได้อย่างรวดเร็วแล้ว ยังตามมาด้วยความสามารถในการเข้าถึงการซื้อสินค้าและการชำระเงินผ่านอินเทอร์เน็ตที่จะทำได้อย่างรวดเร็วมากขึ้นไปอีก นอกจากนี้สำหรับการสแกน QR Code เพื่อเข้าถึงข้อมูลตามป้ายโฆษณาต่างๆ ก็จะทำได้อย่างรวดเร็ว ทำให้การดูคลิปวิดีโอ หนังหรือเข้าถึงเรื่องราวภาพเคลื่อนไหวเพื่อการตัดสินใจได้อย่างไม่สะดุด

ดังนั้นแม้แต่คนที่เพิ่งเริ่มใช้งานสมาร์ทโฟนหรือไม่เคยแม้แต่จะเข้าเว็บเบราว์เซอร์เลย เพียงแค่อ่านหนังสือออกและทำตามคำแนะนำก็จะสามารถใช้งานแอปต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย และยิ่งในขณะนี้ราคาของสมาร์ทโฟนถูกลง ยิ่งจะทำให้การเข้าถึงเทคโนโลยีเหล่านี้ทำได้ง่ายขึ้นด้วย และแอปจะช่วยยกระดับวิถีชีวิตของคนต่างจังหวัดที่เคยห่างไกลให้ใกล้ความเจริญมากขึ้น รวมไปถึงยังช่วยทำให้นักการตลาดเข้าถึงลูกค้าได้ตรงเป้าหมาย สามารถนำเสนอสินค้าและบริการต่างๆและก่อให้เกิดการสั่งซื้อที่ง่ายขึ้น เพราะเมื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคมีความต้องการแล้ว พวกเขาจะเลือก และจิ้มสั่งซื้อได้ทันทีทุกที่ทุกเวลา
คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น

ช่องว่างระหว่างการศึกษาจะแคบลงด้วยเทคโนโลยี
2. ก้าวผ่านช่องว่างทางการศึกษา

3G กับเทรนด์อุปกรณ์ยุคใหม่อย่างแท็บเล็ตกำลังมาแรง และนักเรียน ป.1 บางส่วนเริ่มมีโอกาสได้ใช้งานกันแล้ว แต่หลังจากนี้การใช้งานแท็บเล็ตจะไม่ได้เป็นเพียงแค่การเล่นเกม การเล่นโซเชี่ยลมีเดียหรือเพื่อความบันเทิงเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป เพราะเมื่อความเร็วมากขึ้น การดาวน์โหลดตำราเรียนออนไลน์ การเข้าถึงเนื้อหาที่เป็นการเรียนการสอนแบบทางไกลจะถึงตัวผู้เรียนใกล้ยิ่งขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยทีวีเพียงหน้าจอเดียวเพื่อรับสัญญาณดาวเทียมอีกต่อไป แต่นักเรียนทุกคนสามารถดูได้บนโต๊ะเรียนของตนเอง และสามารถตอบโต้ผ่านแท็บเล็ตได้อย่างทันทีเมื่อมีข้อสงสัยหรือต้องการตอบคำถาม สิ่งเหล่านี้จะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการลดช่องว่างทางการศึกษาได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ในส่วนของการค้นหาข้อมูล ใช้งานด้านอินเทอร์เน็ตเพื่อการเข้าถึงความรู้ใหม่ๆ ตลอดจนการหาแรงบันดาลใจ ทั้งจากข้อมูลที่เป็นตัวอักษรหรือแม้แต่ภาพจากงานศิลปะจากทุกมุมโลก รวมไปถึงการขอความช่วยเหลือในด้านต่างๆ จะง่ายมากขึ้น เนื่องจากเมื่อสัญญาณมือถือเข้าถึง และอุปกรณ์ของนักเรียนเหล่านั้นมีความพร้อม ก็จะไม่เป็นเรื่องยากที่จะเข้าถึงการเรียนรู้ที่ทัดเทียมกับเด็กในเมือง หรือแม้แต่โลกภายนอกที่กว้างไกลออกไป เผลอๆ อาจจะเก่งกว่าเด็กในเมืองที่มัวแต่หลงในเกมหรือโซเชี่ยลมีเดียเสียอีก

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
3. ยกระดับของความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

การมีอุปกรณ์สื่อสารที่ทันสมัยและสามารถเชื่อมต่อได้ตลอดเวลาจะทำให้ผู้ใช้งานมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินได้มากขึ้น เพราะในสมาร์ทโฟนต่างๆ จะมีแอปที่สามารถบ่งบอกตัวตนและจุดที่อยู่ได้อย่างแม่นยำผ่าน GPS หรือระบบแผนที่นำทาง ดังนั้นเมื่อตกอยู่ในสภาวะคับขัน การกดแอปเพียงครั้งเดียวนอกจากจะส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือไปถึงตำรวจแล้ว ยังสามารถทำให้พวกเขารับรู้จุดที่อยู่และเข้ามาช่วยเหลือได้อย่างถูกที่ถูกเวลาแบบเรียลไทม์ แม้แต่การจำหมายเลขรถแท็กซี่แบบเดิมๆ ก็จะกลายเป็นการแชร์ข้อมูลและทิศทางที่แท็กซี่กำลังจะพาไป ทำให้คนที่บ้านสามารถรับรู้ได้ว่าขณะนี้สมาชิกคนใดคนหนึ่งของบ้านอยู่ ณ จุดไหน นอกจากนี้ยังสามารถถ่ายภาพเหตุการณ์ต่างๆ เพื่อบันทึกและแชร์ส่งต่อไปยังหน่วยงานด้านความปลอดภัยได้อย่างทันทีเมื่อเกิดเหตุการณ์อีกด้วย

เช่นเดียวกับความปลอดภัยของบ้าน แม้ในปัจจุบันจะมีโฮมโซลูชันที่ช่วยให้เจ้าของบ้านสามารถสอดส่องดูแลบ้าน และสามารถโทร.แจ้งทันทีที่พบความผิดปกติ แต่ด้วยความเร็วที่มากขึ้นนี้ นอกจากจะสามารถดูแลบ้านได้อย่างชัดเจนผ่านจอมือถือแล้ว ยังสามารถส่งสัญญาณเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้านให้ทำงานหรือหยุดทำงานได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นทีวี แอร์ และการเปิดปิดไฟภายในภายนอกบ้าน ผ่านเครือข่ายไวไฟภายในบ้านที่เชื่อมเข้ากับอินเทอร์เน็ตภายนอก ทำให้อุ่นใจได้มากกว่าเดิมหลายเท่า ยังไม่รวมในอนาคตเมื่อผู้ให้บริการพร้อม การคลิ๊กเพื่อสั่งของที่ขาดหรือพร่องในตู้เย็นก็สามารถทำได้ง่าย โดยไม่จำเป็นต้องจอดรถแวะพักที่ซูเปอร์มาร์เก็ตแต่อย่างใด
คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น

การค้นหาเส้นทางผ่าน 3G จะแม่นยำกว่าเดิม
4. การแพทย์ทางไกลผ่าตัดที่ไหนใช้หมอคนเดียวกัน

3G 2.1 GHz จะทำให้ความฝันของผู้ป่วยที่อยู่ห่างไกล สามารถเข้าถึงการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้อย่างง่ายดายและรวดเร็วให้เป็นจริงได้ แม้ในปัจจุบันจะมีบางโรงพยาบาลที่ห่างไกล หรือสาขาของโรงพยาบาลเอกชนบางแห่งเริ่มมีการให้ผู้ป่วยไม่ต้องเดินทางไปพบแพทย์ แต่สามารถปรึกษาปัญหาด้านสุขภาพผ่านทางวิดีโอกันบ้างแล้ว แต่ดูเหมือนยังไม่สนองตอบต่อการใช้งานแบบจริงจังและเข้าถึงผู้ป่วยที่อยู่ทางไกลได้จริงสักเท่าใดนัก แต่ด้วยความถี่ 2.1 GHz นี้ ความหวังของผู้ป่วยจะกลายเป็นจริง แม้จะอยู่ในชนบทที่ห่างไกล แต่ก็สามารถเข้าถึงแพทย์พร้อมทั้งปรึกษาปัญหา หรือแม้แต่การผ่าตัดและรักษาโรคที่แพทย์ประจำตำบลเหล่านั้นไม่เชี่ยวชาญ แต่ก็สามารถใช้ วิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เพื่อดำเนินการกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทั้งในและต่างประเทศได้ไม่ยาก

นอกจากนี้ด้วยภาพและเสียงที่จะสามารถส่งได้อย่างรวดเร็ว จะทำให้การส่งฟิล์มเอ็กซ์เรย์เพื่อให้แพทย์สามารถทำการวินิจฉัยได้แบบเรียลไทม์ และช่วยเหลือผู้ป่วยได้อย่างทันท่วงทีก็จะไม่ได้เป็นเพียงความฝันอีกต่อไป และในส่วนของแพทย์เองก็ยังสามารถแลกเปลี่ยนความรู้ผ่านช่องทางต่างๆ เพื่อเป็นการแชร์ข้อมูลทั้งในพื้นที่และโลกภายนอกได้แบบง่ายดายยิ่งขึ้น ทำให้รับรู้ปัญหาและวิธีการแก้ไขได้ดียิ่งขึ้น สิ่งที่เคยไกลปืนเที่ยงก็จะกลายเพียงปลายนิ้วมือเท่านั้น

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น

การประชุมทางไกลผ่าน 3G จะเข้ามามีบทบาทที่สำคัญ

5. การทำงานที่ไหลลื่นและตื่นเต้นกับความบันเทิงแบบจัดเต็ม

กระแส BYOD หรือการที่พนักงานสามารถนำอุปกรณ์ส่วนตัวเข้ามาใช้ในที่ทำงานได้ กำลังเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมทั่วโลกและคาดว่าน่าจะกลายเป็นเรื่องยอดนิยมในไทยนับจากนี้ โดย 3G 2.1 GHz จะทำให้การใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้รวดเร็วยิ่งขึ้น ผู้ใช้อาจนั่งทำงานอยู่บนเครื่องพีซีที่ออฟฟิศ แล้วนำขึ้นไปไว้บนคลาวด์เพื่อที่จะนำไปทำต่อระหว่างทางผ่านแท็บเล็ต หรืออ่านเอกสารและอนุมัติผ่านสมาร์ทโฟนได้อย่างง่ายดาย ด้วยโซลูชันที่หลายเวนเดอร์นำเสนอ นอกจากนี้ในการประชุมด่วนแบบเห็นหน้าจะสามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลาโดยไม่จำเป็นต้องเข้าออฟฟิศด้วยการใช้งานวิดีโอคอนเฟอเรนซ์

เช่นเดียวกับความบันเทิง ที่การดาว์นโหลดไฟล์ภาพ เพลง หรือวิดีโอต่างๆ จะสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว และสามารถชมภาพยนตร์ได้อย่างต่อเนื่องไม่ติดขัด นอกจากนี้ด้วยการเชื่อมต่อในหลายรูปแบบระหว่าง Wi-Fi และ 3G นั้นจะทำให้ผู้ชมสามารถดูหนังได้บนแท็บเล็ตในร้านกาแฟ ก่อนจะเปลี่ยนไปดูต่อในเครื่องเล่นมัลติมีเดียบนรถโดยไม่สูญเสียอรรถรสอีกด้วย เพราะในปัจจุบันรถยนต์หลากหลายยี่ห้อได้บรรจุซอฟต์แวร์ที่จะสามารถเชื่อมได้กับทั้งโทรศัพท์มือถือ และสามารถติดต่อสื่อสารกันเองภายในห้องโดยสารผ่านทางอินเทอร์เน็ตได้อีกด้วย

นอกจากนี้ในยุค 3G นี้ เราอาจจะมองผ่านคำว่า convergence แบบเดิมๆ ไปได้เลย เพราะปัจจุบันแนวโน้มใหม่ที่เรียกว่า omni convergence กำลังเป็นเทรนด์ใหม่ที่กระจายไปอย่างรวดเร็วในอุตสาหกรรมการสื่อสารทั่วโลก เป็นตัวขับเคลื่อนประสบการณ์ของผู้บริโภคในปัจจุบัน ด้วยการสร้างประสบการณ์การใช้บริการสื่อสารของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ลูกค้าจะได้รับบริการแบบเรียลไทม์ที่สามารถตอบสนองทุกความต้องการอย่างครบครัน โดยไม่จำกัดประเภทของอุปกรณ์

อาทิ ในขณะที่คุณเป็นลูกค้าของผู้ให้บริการเครือข่ายหนึ่ง และกำลังขับรถโดยใช้โปรแกรม GPS ในสมาร์ทโฟนเพื่อบอกเส้นทางจากสถานที่ A ไปยังสถานที่ B ขณะขับรถอยู่นั้น คุณก็ได้รับการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์เกี่ยวกับราคาน้ำมันของสถานีบริการน้ำมัน บนเส้นทางที่กำลังขับขี่ไปถึงจุดหมาย และเมื่อคุณเติมน้ำมันที่ สถานีบริการน้ำมันแห่งนั้น คุณก็จะได้รับสิทธิประโยชน์เป็นจำนวนนาทีที่จะได้โทร.ฟรี เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ถือเป็นการพัฒนาแอปที่มีความร่วมมือจากหลากหลายบริษัทเพื่อนำเสนอบริการที่มากกว่าการ convergence แบบเดิม เป็นการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ รวมถึงการกำหนดรูปแบบใหม่ๆ ในการคิดค่าบริการ

ทั้งหมดอาจเป็นเพียงแค่การบริการพื้นฐานที่ทำได้จริงในเร็ววันนี้ และอาจจะพัฒนาไปได้ไกลกว่านี้เมื่อมีการจับมือร่วมกันของหลายๆ ผู้ให้บริการ ดังนั้นคงไม่ต้องกลัวว่าการใช้ 3G 2.1 GHz ของประเทศไทยจะมาช้าเกินไป แต่ให้กลัวว่าเมื่อบริการเหล่านี้มาถึงตัวคุณเองต่างหากที่ยังไม่กล้าใช้

ที่มา http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9560000016822

Acer Iconia B1 สเปค ราคา

Acer Iconia B1 สเปค ราคา

ข้อมูลเครือข่าย (Network)
ไม่รองรับการใช้งานโทรศัพท์
- ไม่มีช่องใส่ซิมการ์ดภายในเครื่อง
- สามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตโดย WiFi ได้
ข้อมูลตัวเครื่อง

จอแสดงผล LCD (ไม่ระบุจำนวนสี) ระบบสัมผัส Multi-Touch

 


- ความละเอียด 1024 x 600 พิกเซล กว้าง 7.0 นิ้ว
- Capacitive
ระบบปฏิบัติการ (OS, CPU)
ระบบปฏิบัติการ: Android 4.1.2 Jelly Bean
หน่วยประมวลผล : Dual Core MTK 8317T
- ความเร็ว : 1.2 GHz
หน่วยความจำ 8 GB (ตัวเครื่อง)
- RAM 512MB
การ์ดหน่วยความจำ microSD – สูงสุด 32 GB
ระบบเชื่อมต่อ
ระบบดาวเทียม ค้นหาตำแหน่ง GPS
- รองรับแอพพลิเคชั่น Google Maps™
WiFi 802.11b/g/n
Bluetooth 4.0
Micro USB 2.0
ช่องเสียบชุดหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
รับ-ส่งข้อความ (Messaging)
ข้อความแชท Instant Messaging
สนับสนุน Gmail, Google Search
ฟังก์ชั่นมัลติมีเดีย
กล้องดิจิตอล
กล้องหน้า (Front Camera)
- ความละเอียด 3 แสนพิกเซล
เครื่องเล่นวีดีโอ (Video Player)
- รูปแบบไฟล์ : MPEG-4, H.264, AVI
เครื่องเล่นเพลง (Music Player)
- รูปแบบไฟล์ : AAC, MP3, WAV, WMA, OGG, FLAC
แอพพลิเคชั่นมาตรฐาน
ดาวน์โหลดแอนดรอยด์แอพพลิเคชั่นเพิ่มเติม (Android Market)
การใช้งานของแบตเตอรี่
แบตเตอรี่มาตรฐาน Li-ion 2,710 mAh (Standard Battery)

Apple iPad 4 สเปค ราคา

Apple iPad 4 สเปค ราคา

จอแสดงผลแบบ IPS Retina Display LED-Backlit Glossy Widescreen Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 2048×1536 Pixels (กว้าง 9.7 นิ้ว : 264 ppi) พร้อมหน่วยประมวลผลภาพกราฟฟิคโดยเฉพาะเแบบ Quad-Core PowerVR SGX543MP4

ประมวลผลการทำงานด้วย Dual-Core Cortex-A9 Processor (ชิปเซ็ต Apple A6X) พร้อมระบบปฏิบัติการ iOS 6
เชื่อมต่อ HTML Browser ผ่านระบบ WiFi, LTE, HSPA+, CDMA EV-DO, EDGE หรือ GPRS พร้อมระบบ GPS ในตัว (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง)

 


กล้องดิจิตอลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 5 ล้าน Pixels (iSight Camera : 2592×1944 Pixels) พร้อมกล้องดิจิตอลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 1.2 ล้านพิกเซล (FaceTime HD Camera)
รองรับการเชื่อมต่อแบบ AirPlay Mirroring ไปยัง Apple TV (ความละเอียดสูงสุดระดับ 720p) และแบบ AirPlay Video Streaming ไปยัง Apple TV (ความละเอียดสูงสุดระดับ 1080p)

ระบบสัญญาณ Quad Mode (LTE/WCDMA/CDMA/GSM)
- 4G LTE Bands 4, 7 (โมเดล A1459) หรือ LTE Bands 1, 3, 5, 13, 25 (โมเดล A1460)
- WCDMA/HSPA+ Quad Band (850/900/1900/2100 MHz)
- CDMA EV-DO Rev. A and Rev. B Tri Band (800/1900/2100 MHz : โมเดล A1460)
- GSM Quad Band (850/900/1800/1900 MHz)
- ใช้งานซิมการ์ดแบบ microSIM
ขนาด 241.2×185.7×9.4 มิลลิเมตร
น้ำหนัก 652 กรัม (iPad 4 Wi-Fi) หรือ 662 กรัม (iPad 4 Wi-Fi+Cellular)
ชนิดจอแสดงผลแบบ IPS Retina Display LED-Backlit Glossy Widescreen Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 2048×1536 Pixels (กว้าง 9.7 นิ้ว : 264 ppi)
- หน่วยประมวลผลภาพกราฟฟิคโดยเฉพาะ (GPU) แบบ Quad-Core PowerVR SGX543MP4
- พื้นผิวหน้าจอแบบ Oleophobic Coating ช่วยป้องกันรอยนิ้วมือ และรอยขีดข่วน
- ระบบสัมผัสแบบหลายจุด (Multi-Touch)
- ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบ 3-Axis Gyro Sensor
- ระบบ Accelerometer Sensor ช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้
- ฟังก์ชัน Ambient Light Sensor สำหรับตรวจวัดระดับความสว่างของสภาพแวดล้อม เพื่อปรับความสว่างของหน้าจอและแผงปุ่มกดให้เหมาะสม
ชนิดแบตเตอรี่ Li-Ion Polymer 11,560 mAh (42.5 Watt-Hour)
ระยะเวลาสแตนด์บายสูงสุด ประมาณ 720 ชั่วโมง
ระยะเวลาการเปิดดูวิดีโอต่อเนื่องสูงสุด ประมาณ 10 ชั่วโมง
ระยะเวลาการฟังเพลงต่อเนื่องสูงสุด ประมาณ 10 ชั่วโมง
ระยะเวลาการเปิดเว็บไซต์ผ่านระบบ Wi-Fi ต่อเนื่องสูงสุด ประมาณ 10 ชั่วโมง
ระยะเวลาการเปิดเว็บไซต์ผ่านระบบเครือข่าย ต่อเนื่องสูงสุด ประมาณ 9 ชั่วโมง
ประมวลผลการทำงานด้วย Dual-Core Cortex-A9 Processor (ชิปเซ็ต Apple A6X) พร้อมหน่วยประมวลผลภาพกราฟฟิค (GPU) แบบ Quad-Core (PowerVR SGX543MP4)
ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ iOS 6
หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 16 GB, 32 GB หรือ 64 GB
ปุ่มสำหรับเปิด-ปิดเสียงที่ด้านข้างของตัวเครื่อง
รองรับการใส่ Smart Cover

Email
- รองรับการใช้งานระบบ Push Email
- รองรับการใช้งานไฟล์แนบ (Attachment) พร้อมรองรับไฟล์นามสกุล .jpg, .tiff, .gif, .doc/.docx (Microsoft Word), .htm/.html (Web Pages), .key (Keynote), .numbers (Numbers), .pages (Pages), .pdf (Preview และ Adobe Acrobat), .ppt/.pptx (Microsoft PowerPoint), .txt (text), .rtf (Rich Text Format), .vcf (Contact Information), .xls/.xlsx (Microsoft Excel)
Instant Messaging
โปรแกรม iMessage
โปรแกรม VoiceOver Screen Reader
รองรับการใช้งานภาษาไทย
- รองรับการใช้งานคีย์บอร์ดภาษาไทย
- ระบบสะกดคำอัตโนมัติภาษาไทย
ฟังก์ชัน VoiceOver Screen Reader สำหรับการอ่านข้อความ เป็นเสียงพูด

HTML Browser (Safari Web Browser)
WiFi (WLAN : Wireless LAN : 802.11 a/b/g/n)
- รองรับความถี่ WiFi แบบ Dual Band (2.4 และ 5 GHz)
- ฟังก์ชัน Wi-Fi hotspot สำหรับการแชร์อินเทอร์เน็ตผ่านทางสัญญาณ Wi-Fi
4G LTE (73 Mbps) (เฉพาะ iPad 4 Wi-Fi+Cellular)
HSPA+ (เฉพาะ iPad 4 Wi-Fi+Cellular)
- DC-HSDPA (42 Mbps) : HSDPA (21 Mbps) : HSUPA (5.76 Mbps)
CDMA EV-DO Rev. A (3.1 Mbps) (เฉพาะ iPad 4 Wi-Fi+Cellular)
EDGE (เฉพาะ iPad 4 Wi-Fi+Cellular)
GPRS (เฉพาะ iPad 4 Wi-Fi+Cellular)
Bluetooth เวอร์ชัน 4.0
- รองรับการเชื่อมต่อใช้งานกับหูฟัง Bluetooth แบบ Stereo (A2DP)
- รองรับเทคโนโลยี EDR (Enhanced Data Rate)
ช่องต่อสายหูฟังมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร
Lightning Connector
- รองรับการใช้งานสาย Lightning to USB Cable พร้อมรองรับมาตรฐาน USB เวอร์ชัน 2.0
รองรับการเชื่อมต่อแสดงผลผ่านทางหน้าจอโทรทัศน์ (TV Out)
- รองรับการเชื่อมต่อแบบ AirPlay Mirroring ไปยัง Apple TV (ความละเอียดสูงสุดระดับ 720p)
- รองรับการเชื่อมต่อแบบ AirPlay Video Streaming ไปยัง Apple TV (ความละเอียดสูงสุดระดับ 1080p)
- เชื่อมต่อผ่านทาง Apple Digital AV Adapter (ความละเอียดสูงสุดระดับ 1080p)
- เชื่อมต่อผ่านทาง Apple Composite AV Cable (ความละเอียดสูงสุดระดับ 576i และ 480i)
ระบบ GPS ในตัว (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง)
- ฟังก์ชัน A-GPS ในตัว (Assisted Global Positioning System)
- รองรับการใช้งานกับระบบดาวเทียมของรัสเซีย (GLONASS : Global Navigation Satellite System)
- ค้นหาข้อมูลแผนที่ผ่านทางโปรแกรม Apple Maps
- โปรแกรมเข็มทิศดิจิตอล (Digital Compass)
รองรับการเก็บบันทึกข้อมูลแบบ Cloud Storage ด้วยบริการ iCloud Service
รองรับการใช้งานเครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social Networking)
- รองรับการใช้งาน Facebook, Twitter
ค้นหาและดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นผ่านทาง App Store
ค้นหาและดาวน์โหลด e-Book ผ่านทาง iBookstore

นาฬิกาบอกเวลา
โปรแกรม Organizer
ปฏิทินพร้อมบันทึกนัดหมาย
เครื่องคิดเลข
จดบันทึก
โปรแกรมเล่นไฟล์เพลง
- รองรับย่านความถี่เสียงตั้งแต่ 20 Hz ถึง 20,000 Hz
- รองรับไฟล์เสียงแบบ AAC (8 ถึง 320 Kbps), Protected AAC (จาก iTunes Store), HE-AAC, MP3 (8 ถึง 320 Kbps), MP3 VBR, Audible (formats 2, 3, 4, Audible Enhanced Audio, AAX และ AAX+), Apple Lossless, AIFF และ WAV
- รองรับการกำหนดระดับเสียงสูงสุด
โปรแกรมเล่นไฟล์วิดีโอ
- รองรับการใช้งานฟังก์ชัน AirPlay Mirroring กับ Apple TV (2nd และ 3rd Generation) ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 720p
- รองรับการใช้งานฟังก์ชัน AirPlay Video Streaming กับ Apple TV (3rd Generation) ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 1080p และ Apple TV (2rd Generation) ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 720p
- รองรับการใช้งาน Video Mirroring และ Video out ผ่านทาง Lightning Digital AV Adapter (ความละเอียดสูงสุด 720p) และ Lightning to VGA Adapter (ความละเอียดสูงสุด 1080p)
- รองรับไฟล์วิดีโอแบบ H.264 (สูงสุด 1080p : 30 fps : High Profile level 4.1), MOV, MPEG-4 (สูงสุด 640×480 Pixels : 30 fps), Motion JPEG (M-JPEG : สูงสุด 1280×720 pixels : 30 fps), AVI
รองรับระบบเสียงแบบ Dolby Digital 5.1 Surround Sound ผ่านทาง Apple Digital AV Adapter (อุปกรณ์เสริม)
โปรแกรม Newsstand
แอพพลิเคชั่นมาตรฐานภายในเครื่อง
- Safari, Mail, Messages, Photos, FaceTime, Newsstand, App Store, iTunes, Videos, Maps, Music, Game Center, Photo Booth, YouTube, Contacts, Reminders, Calendar, Notes, Camera
โปรแกรมเปิดอ่านไฟล์เอกสาร
ลำโพง Loudspeaker ในตัว
ฟังก์ชัน Siri สำหรับการสั่งงาน และโต้ตอบด้วยเสียงพูด
บันทึกเสียง

กล้องดิจิตอลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 5 ล้าน Pixels (iSight Camera)
- ความละเอียดสูงสุดของภาพถ่าย 2592×1944 Pixels
- โครงสร้างภายใน ประกอบไปด้วยชิ้นเลนส์ 5 ชิ้น
- เซนเซอร์รับภาพแบบ Backside-illuminated Sensor (BSI) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการถ่ายภาพในที่มืด
- ระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติ (Auto Focus)
- ระบบเลือกจุดโฟกัสภาพด้วยการสัมผัส (Touch Focus)
- ค่ารูรับแสง (Aperture) กว้างสูงสุดที่ F/2.4
- ฟิลเตอร์แบบ Hybrid IR Filter สำหรับการกรองคลื่นแสงอินฟราเรด
- ฟังก์ชัน HDR (High Dynamic Range)
- ฟังก์ชัน Face Detection ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการโฟกัสไปที่ใบหน้าของผู้ถูกถ่าย
- ปรับค่าชดเชยแสง (Exposure)
- ถ่ายภาพวิดีโอ (Full HD : 1080p : 1920×1080 Pixels : 30 fps)
- ระบบป้องกันการสั่นไหวของภาพวิดีโอ (Video Stabilization)
- ฟังก์ชัน Geotagging รองรับการแนบข้อมูลพิกัดตำแหน่งบนพื้นโลกไปกับรูปภาพ และวิดีโอ
- โปรแกรมตกแต่งแก้ไขรูปภาพ
- โปรแกรมตัดต่อวิดีโอ
- โปรแกรม Photo Booth
- โปรแกรม iPhoto
- โปรแกรมสร้างภาพสไลด์โชว์
กล้องดิจิตอลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 1.2 ล้านพิกเซล (FaceTime HD Camera)
- เซนเซอร์รับภาพแบบ Backside-illuminated Sensor (BSI) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการถ่ายภาพในที่มืด
- ถ่ายภาพวิดีโอ (HD 720p : 1280×720 Pixels : 30 fps)
- รองรับการใช้งานโปรแกรม FaceTime (Video Calling) ผ่านระบบ Wi-Fi และระบบเครือข่าย
- ฟังก์ชัน Face Detection ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการโฟกัสไปที่ใบหน้าของผู้ถูกถ่าย
- ปรับค่าชดเชยแสง (Exposure)
- ฟังก์ชัน Geotagging รองรับการแนบข้อมูลพิกัดตำแหน่งบนพื้นโลกไปกับรูปถ่าย
เกมส์ในเครื่อง
มี 2 สีมาตรฐานให้เลือก (ขาว และ ดำ)
เปิดตัวครั้งแรก เมื่อ วันที่ 23 ตุลาคม ปี ค.ศ. 2012
กำหนดการออกวางจำหน่ายครั้งแรก เดือนพฤศจิกายน ปี ค.ศ. 2012
ราคาเปิดตัว iPad 4 Wi-Fi 16GB 499$ (ราคาเดียวกับ The new iPad หรือ iPad 3)
ราคาเปิดตัว iPad 4 Wi-Fi+Cellular 16GB 629$ (ราคาเดียวกับ The new iPad หรือ iPad 3)

บ้านเราราคา 16500 บาทครับพี่น้อง

Epson ยึดผู้นำตลาดโปรเจกเตอร์

Epson ยึดผู้นำตลาดโปรเจกเตอร์

“เอปสัน” มั่นใจรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดโปรเจกเตอร์ด้วยส่วนแบ่ง 36% เมื่อปิดปีงบประมาณ ส่วนปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 15% เน้นขยายฐานลูกค้าในกลุ่มโปรเฟสชันนัลที่ต้องการเครื่องฉายอเนกประสงค์ประสิทธิภาพสูง

นายเออิจิ คาโตะ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงสภาพตลาดโปรเจกเตอร์ในประเทศไทยว่ายังมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงครึ่งปีแรกของปีงบประมาณ (ช่วงเดือนเมษายน-กันยายน 2555) เอปสันมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 34% และคาดว่าจนถึงสิ้นปีงบประมาณจะเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ราว 35-36%

“ตลาดภาคการศึกษายังถือเป็นตลาดสำคัญที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเชื่อว่าในปี 2556 นี้ก็จะเติบโตเพิ่มขึ้นไป รวมถึงในตลาดระดับกลางถึงระดับบนที่เริ่มมีการลงทุนทางด้านไอทีมากยิ่งขึ้น ดังนั้นเอปสันจึงนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ 33 รุ่นออกมาตอบโจทย์ทุกกลุ่มลูกค้า”

นายยรรยงค์ มุนีมงคลทร ผู้จัดการทั่วไป ให้ข้อมูลเสริมว่า ตลาดรวมโปรเจกเตอร์ในปี 2555 น่าจะมีปริมาณอยู่ที่ราว 85,000 เครื่อง หรือคิดเป็นมูลค่าราว 1.6-1.7 พันล้านบาท ส่วนในปี 2556 น่าจะมีอัตราการเติบโตราว 15% ซึ่งเอปสันมีฐานตลาดอยู่ที่กลุ่มการศึกษาราว 55% กลุ่มองค์กรขนาดเล็กและโฮมออฟฟิศ 25% องค์กรขนาดใหญ่ 15% ใช้งานในบ้านเรือนราว 3% และสุดท้ายคือกลุ่มโปรเฟสชันนัล 2%

“จาก 5 ฐานลูกค้าของเอปสัน ในปีนี้เชื่อว่ากลุ่มโปรเฟสชันนัลน่าจะมีอัตราการเติบโตสูงที่สุด เนื่องมาจากด้วยความต้องการของเทคโนโลยีในการฉายภาพขนาดใหญ่ยังมีช่องว่างให้สามารถเจริญเติบโตได้อีกมาก ในขณะที่กลุ่มอื่นๆ ถือว่ามั่นคงแล้ว”

โดยการที่เอปสันเป็นผู้นำตลาดโปรเจกเตอร์เกิดจากการที่มีผลิตภัณฑ์ครบสำหรับทุกความต้องการ สามารถผลิตชิ้นส่วนเทคโนโลยีสำคัญภายในโปรเจกเตอร์ด้วยตนเอง พันธมิตรทางการค้าทั่วโลก และสุดท้ายคือบริการหลังการขาย ซึ่งเมื่อนำจุดเด่นทั้ง 4 มาทำตลาดก็ช่วยให้ลูกค้ามีความมั่นใจในผลิตภัณฑ์มากยิ่งขึ้น

นายยรรยงค์กล่าวต่อว่า เอปสันตั้งเป้าการเติบโตในส่วนของธุรกิจโปรเจกเตอร์ปี 2556 ไว้ราว 15% เช่นเดียวกับการเติบโตของตลาด แม้ว่าในช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมาจะมีอัตราการเติบโต 20-30% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แต่คาดว่าเป็นเพราะช่วงปีก่อนหน้านั้นเกิดเหตุการณ์อุทกภัยทำให้กำลังซื้อในปีนั้นลดลง ดังนั้นเมื่อเฉลี่ยทั้งปีแล้วจึงเชื่อว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าที่วางไว้อย่างแน่นอน

“การลงทุนปีนี้จะเน้นไปที่การเพิ่มบุคลากรในด้านการติดตั้งเครื่องโปรเจกเตอร์​ โปรเฟสชันนัลซีรีส์ เนื่องมาจากต้องใช้ความเชี่ยวชาญในตัวผลิตภัณฑ์ และเชื่อว่าจะเป็นตลาดที่มีการเติบโตสูงในปีนี้ รวมกับกิจกรรมการตลาดแบบบีโลว์เดอะไลน์ ทำโรดโชว์ตามสถานศึกษาเป็นหลัก”

ขณะที่ในส่วนของศูนย์บริการที่ปัจจุบันมีอยู่ 112 ศูนย์บริการทั่วประเทศ แบ่งเป็น กรุงเทพฯ และปริมณฑล 42 แห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 22 แห่ง ภาคเหนือ 19 แห่ง ภาคตะวันออก 16 แห่ง และภาคใต้ 13 แห่ง โดยมีแผนที่จะขยายเพิ่มในปี 2556 อีกราว 10 แห่ง

“ในแง่ของศูนย์บริการ เอปสันถือว่ามีจุดให้บริการครอบคลุมตามหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศอยู่แล้ว ซึ่งทั้งหมดให้บริการผ่านพาร์ตเนอร์ โดยมีฝ่ายเทคนิคของทางเอปสันให้การสนับสนุน ดังนั้นการเพิ่มจุดให้บริการในปีนี้จึงเน้นไปในพื้นที่เฉพาะจุดมากขึ้น”

สำหรับโปรเจกเตอร์รุ่นใหม่ที่เอปสันได้ทำการเปิดตัวในช่วงต้นปี 2556 ประกอบไปด้วย 7 ซีรีส์ คือ สมาร์ทซีรีส์ หรือเครื่องราคาประหยัด อัลตราพอร์เทเบิลซีรีส์ เครื่องขนาดเล็กเหมาะต่อการพกพา ช็อตโทรวซีรีส์ เครื่องฉายระยะสั้น อีโวลูชันซีรีส์ ที่มีการเชื่อมต่อครบครัน โปรเฟสชันนัลซีรีส์ เครื่องฉายอเนกประสงค์คุณภาพสูง ไฮเพอร์ฟอร์แมนซ์ซีรีส์ โปรเจกเตอร์ที่ให้ความสว่างและประสิทธิภาพสูง สุดท้าย โฮมโปรเจกเตอร์ซีรีส์ สำหรับใช้งานในบ้าน ซึ่งเมื่อนับรวมกับสินค้าเดิมที่มีอยู่ในตลาดแล้วจะรวมเป็น 56 รุ่น

ผู้จัดการ

BlackBerry PlayBook สเปค ราคา ความคุ้มค่า

BlackBerry PlayBook สเปค ราคา ความคุ้มค่า

จอแสดงผลแบบ Crystal Clear HD Display Capacitive Touchscreen ความละเอียด 1024×600 Pixels (WSVGA : กว้าง 7.0 นิ้ว : อัตราส่วน 16:9)



ประมวลผลการทำงานด้วย Cortex A9 Dual-Core Processor ความเร็วในการประมวลผล 1 GHz
เชื่อมต่อ HTML Browser ผ่านระบบ WiFi หรือ 3G (ผ่านทางสมาร์ทโฟนของ BlackBerry) พร้อมการเชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่าน Bluetooth
รองรับการเล่นไฟล์วิดีโอความละเอียดสูงระดับ Full HD 1080p พร้อมการเชื่อมต่อสู่จอแสดงผลภายนอกผ่านทาง microHDMI
กล้องดิจิตอลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 5 ล้าน Pixels (2592×1944 Pixels), ถ่ายภาพวิดีโอ (Full HD : 1080p : 1920×1080 Pixels)

รองรับการใช้งานระบบเครือข่ายแบบ 3G และ 4G ได้ในอนาคต
ขนาด 194x130x10 มิลลิเมตร
น้ำหนัก 400 กรัม
ชนิดจอแสดงผลแบบ Crystal Clear HD Display Capacitive Touchscreen ความละเอียด 1024×600 Pixels (WSVGA : กว้าง 7.0 นิ้ว : อัตราส่วน 16:9)


- ระบบสัมผัสแบบหลายจุด (Multi-Touch)
- รองรับเทคโนโลยี Open GL
ชนิดแบตเตอรี่ Li-Ion 5300 mAh
ประมวลผลการทำงานด้วย Cortex A9 Dual-Core Processor ความเร็วในการประมวลผล 1 GHz
ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ BlackBerry Tablet OS
- รองรับการประมวลผลด้วยซีพียูหลายตัวพร้อมกัน (Symmetric Multiprocessing : Dual-Core)
- รองรับการเปิดใช้งานหลายโปรแกรมในเวลาเดียวกัน (Multi-Tasking)
- พัฒนาอยู่บนโครงสร้างของเทคโนโลยี QNX Neutrino
หน่วยความจำ RAM ขนาด 1 GB
หน่วยความจำสำหรับผู้ใช้ขนาด 16 GB, 32 GB หรือ 64 GB

Email (POP3, SMTP, IMAP4)
- รองรับการใช้งานระบบ Push Email
BBM (BlackBerry Messenger)

HTML Browser (BlackBerry Browser)
- รองรับมาตรฐาน HTML5
- รองรับ Adobe Flash เวอร์ชัน 10.1
WiFi (WLAN : Wireless LAN : 802.11 a/b/g/n)
3G (เชื่อมต่อผ่านทางสมาร์ทโฟนของ BlackBerry)
Bluetooth เวอร์ชัน 2.1
- รองรับการเชื่อมต่อใช้งานกับหูฟัง Bluetooth แบบ Stereo (A2DP)
- รองรับเทคโนโลยี EDR (Enhanced Data Rate)
USB Data Cable (microUSB : USB เวอร์ชัน 2.0)
microHDMI (High-Definition Multimedia Interface)
ค้นหาและดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นเพิ่มเติมผ่านทาง BlackBerry App World





นาฬิกาบอกเวลา
นาฬิกาแสดงเวลาทั่วโลก
ตั้งปลุก
ปฏิทินพร้อมบันทึกนัดหมาย
เครื่องคิดเลข
จดบันทึก
รายการงานที่ต้องทำ
โปรแกรมเล่นไฟล์เพลง MP3, AAC, WMA, FLAC
โปรแกรมเล่นไฟล์วิดีโอ DivX, H.264, MPEG4, WMV
- รองรับการเล่นไฟล์วิดีโอความละเอียดสูงระดับ Full HD 1080p
ระบบเสียงแบบ Stereo
โปรแกรมเปิดอ่านไฟล์ E-Book
โปรแกรมเปิดอ่านไฟล์เอกสาร

กล้องดิจิตอลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 5 ล้าน Pixels
- ความละเอียดสูงสุดของภาพถ่าย 2592×1944 Pixels
- ถ่ายภาพวิดีโอ (Full HD : 1080p : 1920×1080 Pixels)
กล้องดิจิตอลตัวรองที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 3.2 ล้าน Pixels
- ความละเอียดสูงสุดของภาพถ่าย 2048×1536 Pixels
- โปรแกรม Face to Face รองรับการสนทนาแบบเห็นใบหน้า
ระบบควบคุมการทำงานแบบ Gesture Control รองรับการสั่งงานด้วยการแสดงท่าทางด้วยมือของผู้ใช้
เกมส์ในเครื่อง
เปิดตัวครั้งแรก เมื่อ เดือนกันยายน ปี ค.ศ. 2010
กำหนดการออกวางจำหน่าย ไตรมาสที่ 1 ปี ค.ศ. 2011 (สหรัฐอเมริกา) หรือ ไตรมาสที่ 2 (ทั่วโลก)